สานฝันวัยเด็ก! อยากเป็นหมอต้องทำอย่างไร
โตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ มักตอบว่าอยากเป็นหมอ แน่นอน อาชีพหมอ ถือเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคนเลยทีเดียว และอาชีพนี้ ก็มีความมั่นคงสูงมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างหนัก อีกอย่างต้องมีใจรักด้วย ถึงจะเข้าถึงความเป็นหมอได้ดี เรามาดูกันว่า อยากเป็นหมอต้องทำอย่างไร ต้องสอบอะไร ยังไงบ้าง
เตรียมตัวอย่างไรก่อนสอบหมอ
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน: มั่นใจว่าอยากเป็นหมอจริงๆ เข้าใจลักษณะงาน ความรับผิดชอบ และความทุ่มเทที่ต้องมี
เรียนหนัก: ตั้งใจเรียน โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใช้สอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ เช่น ชีวะ เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
ฝึกฝนทักษะ: ฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานเป็นทีม และทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
หาข้อมูล: หาข้อมูลเกี่ยวกับคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตร มหาวิทยาลัย และทุนการศึกษา
เตรียมตัวสอบ: ฝึกทำข้อสอบเก่า ติวหนังสือ เข้าคอร์สเตรียมสอบ
ดูแลสุขภาพ: พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
วิชาที่ต้องสอบ
วิชาที่ต้องสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ แบ่งออกได้ดังนี้
สอบของกสทพ.
- TPAT1 สอบวิชา เชาว์ปัญญา จริยธรรม และความคิดเชื่อมโยง
- A-Level สอบวิชาคณิตศาสตร์1 ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา
- กลุ่มวิชาเฉพาะของมหาวิทยาลัย: บางมหาวิทยาลัยอาจมีวิชาเฉพาะเพิ่มเติม เช่น วิชาชีววิทยาเฉพาะแพทย์ วิชาเคมีเฉพาะแพทย์
ยื่นรอบ Portfolio
สำหรับรอบนี้ น้อง ๆ ไม่ต้องสอบข้อเขียน เตรียมแค่เอกสารและผลงานให้ครบพร้อม รอสัมภาษณ์ได้เลย ยกเว้นบางมหาวิทยาลัย ที่อาจมีจัดสอบวิชาเฉพาะเพิ่มเติม สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่
- คะแนนสอบภาษาอังกฤษ IELTS หรือ TOEFL iBT
- ผลการสัมภาษณ์แบบ MMI หรือ Multiple Mini Interview (เฉพาะบางมหาวิทยาลัยกำหนด)
- ผ่านการอบรม MHA และ MDH ขั้นแนะนำ (เฉพาะบางมหาวิทยาลัยกำหนด)
- ประวัติการเข้าร่วมค่าย หรือแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ (เฉพาะบางมหาวิทยาลัยกำหนด)
- คะแนน TGAT และ TPAT1 (เฉพาะบางมหาวิทยาลัยกำหนด)
- Portfolio สะสมผลงานตามที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งกำหนด
- เก็บคะแนนจากข้อสอบ เฉพาะมหาวิทยาลัย*
หลักสูตรมีอะไรบ้าง เรียนกี่ปี
หลักสูตรแพทยศาสตร์เป็นหลักสูตร 6 ปี แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ดังนี้
ชั้นปีที่ 1 - 2: เรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เช่น ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา เภสัชวิทยา เป็นต้น
ชั้นปีที่ 3 - 6: เรียนวิชาชี้นาฏกรรมทางการแพทย์ เช่น อายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์ สูติศาสตร์ กุมารเวชศาสตร์ จิตเวชศาสตร์ พยาธิวิทยา เวชศาสตร์ชุมชน เป็นต้น
รอบการสมัครTCAS
การสมัครเข้าคณะแพทยศาสตร์ผ่านระบบ TCAS มี 4 รอบ ดังนี้
รอบที่ 1: รอบ Portfolio
รอบที่ 2: รอบ Quota
รอบที่ 3: General Admission (GA)
รอบที่ 4: Direct Admission (DA)
มหาวิทยาลัยที่เปิดรับ
- แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- แพทยศาสตร์ (กองทัพอากาศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- แพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
- แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ รพ.ราชวิถี มหาวิทยาลัยรังสิต (เอกชน)
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ รพ.เลิดสิน มหาวิทยาลัยรังสิต (เอกชน)
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์ รพ.นพรัตนราชธานี มหาวิทยาลัยรังสิต (เอกชน)
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- แพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- แพทยศาสตร์วชิรพยาบาล รพ.ตากสิน มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม (เอกชน)
- แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น (เอกชน)
- แพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
มหาวิทยาลัยที่เปิดคณะแพทย์ สานฝันให้กับคนที่อยากเป็นหมอ มีเยอะมาก ขอเพียงน้อง ๆ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ อยากเป็นหมอ ต้องเป็น ทำตามความฝันให้สำเร็จนะ ว่าที่คุณหมอทุกคน!!
ติดตามข่าวสารการศึกษา อัพเดทใหม่ ได้ที่ www.edugothailand.com ติดตามข่าวสารกิจกรรมเอ็ดดูโกได้ที่ facebook.com/edugothailand หรือสอบถามคำแนะนำด้านการเรียนต่อที่ Line @edugothailand
“EDUGO TIP : ตามหลักการที่เอ็ดดูโกรวบรวมสถิติมา โดยส่วนมากแล้วคนที่เหมาะกับการเป็นหมอจะเป็นคนประเภท Realistic(R) หรือ Investigative(I) ถ้าน้องๆคนไหนอยากรู้ว่าทักษะและความชอบของเราตรงกับอาชีพหมอไหม หรือเราเหมาะกับอาชีพอะไรกันแน่ ลองเข้าไปทำแบบสำรวจหาอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเองได้ที่ www.edugothailand.com นะ”