3 การสอบภาษาอังกฤษที่ควรรู้จัก

3 การสอบภาษาอังกฤษที่ควรรู้จัก

20 ม.ค. 2567
ทั่วไป

        หากน้องๆ ต้องการเข้าศึกษาต่อในคณะ หรือมหาวิทยาลัย ที่ต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษประกอบการสมัคร แน่นอนว่า จะต้องมีการทดสอบภาษาอังกฤษตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เราจะมาดูกันว่า การทดสอบภาษาอังกฤษที่ใช้ยื่นคะแนนศึกษาต่อ มีอะไรกันบ้าง ซึ่งมีทั้งหมด 3 การสอบภาษาอังกฤษที่ทุกคนต้องรู้จัก

undefined

1. CU TEP

        มาเริ่มกันที่การสอบ CU TEP เป็นการทดสอบวัดระดับความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษ ที่จัดขึ้นโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่รองรับผลคะแนนจาก CU TEP ใช้ได้ทั้งระดับปริญญาตรี บัณฑิตศึกษาในหลายมหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไป ใช้สมัครงานได้ โดยวัดทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ครบทั้ง 4 ทักษะและส่วนใหญ่จะเป็นคณะและสาขาวิชาที่สอนเป็นหลักสูตรนานาชาติ หรือคณะและสาขาวิชาที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน

CU TEP สอบอะไรบ้าง 

        CU TEP มีสอบอยู่ 2 แบบคือ CU TEP General และ CU TEP for Academic Purposes ซึ่งมีการสอบที่แตกต่างกัน ดังนี้

CU TEP General 

เป็นการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษทั่วไป ครอบคลุม 4 ทักษะหลัก คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน

  • ทักษะการฟัง (Listening Comprehension) 50 ข้อ ใช้เวลา 45 นาที ทดสอบความสามารถในการฟังและเข้าใจบทสนทนา บรรยาย และรายการวิทยุหรือโทรทัศน์
  • ทักษะการพูด (Speaking) 2 ข้อ ใช้เวลา 20 นาที ทดสอบความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยข้อแรกเป็นการพูดแบบบรรยาย และข้อที่สองเป็นการพูดโต้ตอบ
  • ทักษะการอ่าน (Reading Comprehension) 50 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที  ทดสอบความสามารถในการอ่านและเข้าใจเนื้อหาจากบทความ จดหมาย ประกาศ และเอกสารอื่น ๆ
  • ทักษะการเขียน (Writing) 1 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที  ทดสอบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยจะต้องเขียนเรียงความ อีเมล หรือจดหมาย

CU TEP for Academic Purposes 

        เป็นการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับวัตถุประสงค์ทางวิชาการ ครอบคลุม 4 ทักษะหลักเช่นเดียวกับ CU TEP General แต่เน้นทักษะการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการมากกว่า

  • ทักษะการฟัง (Listening Comprehension) 50 ข้อ ใช้เวลา 45 นาที
  • ทักษะการพูด (Speaking) 2 ข้อ ใช้เวลา 20 นาที
  • ทักษะการอ่าน (Reading Comprehension) 50 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที
  • ทักษะการเขียน (Writing) 1 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที

ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนนสอบ CU-TEP

  • คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ TEPE (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คณะเภสัชศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะวิทยาศาสตร์ เคมีบูรณาการ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

undefined

2. TU-GET

        การสอบแบบที่สอง เรียกว่า TU-GET หรือThammasat University General English Test เป็นข้อสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ต้องการสมัครเข้าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ TU-GET ข้อสอบวัด4 ทักษะหลัก คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งในการยื่นเข้าสมัครในภาคอินเตอร์ในหลายๆ คณะของธรรมศาสตร์ได้เช่นกัน รวมถึงนำไปใช้กับสถาบัน มหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่รองรับ TU-GET ได้ด้วย

TU-GET สอบอะไรบ้าง

        สำหรับการสอบ TU-GET แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่

  •  TU-GET (Paper Based Test) เป็นการสอบแบบกระดาษ ใช้เวลาสอบ 3 ชั่วโมง 30 นาที ประกอบด้วย 4 ทักษะหลัก คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน
  •  TU-GET (Computer Based Test) เป็นการสอบผ่านคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาสอบ 3 ชั่วโมง 30 นาที ประกอบด้วย 4 ทักษะหลัก คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน

ทักษะการฟัง (Listening Comprehension) 50 ข้อ ใช้เวลา 45 นาที

เป็นการทดสอบความสามารถในการฟังและเข้าใจบทสนทนา บรรยาย และรายการวิทยุหรือโทรทัศน์

ทักษะการพูด (Speaking)2 ข้อ ใช้เวลา 20 นาที

เป็นการทดสอบความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยข้อแรกเป็นการพูดแบบบรรยาย และข้อที่สองเป็นการพูดโต้ตอบ

ทักษะการอ่าน (Reading Comprehension)50 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที

เป็นการทดสอบความสามารถในการอ่านและเข้าใจเนื้อหาจากบทความ จดหมาย ประกาศ และเอกสารอื่น ๆ

ทักษะการเขียน (Writing)1 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที 

เป็นการทดสอบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยจะต้องเขียนเรียงความ อีเมล หรือจดหมาย

ตัวอย่างคณะที่ใช้คะแนนสอบ TU-GET

  • คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์นานาชาติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • โครงการช้างเผือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

undefined

3. TOEIC

TOEIC (Test of English for International Communication)เป็นการทดสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษในระดับการสื่อสารทั่วๆ ไป TOEIC จะมีอยู่สองแบบคือ TOEIC Listening and Reading Test (การฟังและการอ่าน) และ TOEIC Speaking and Writing Tests (การพูดและการเขียน) ซึ่งอย่างหลังเป็นการสอบรูปแบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามา โดยปกติแล้ว การสอบ TOEIC สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการสมัครงานหรือเลื่อนขั้นในหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ และยังช่วยทดสอบความสามารถเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตนเองอีกด้วย 

TOEIC สอบอะไรบ้าง

        ในการสอบ TOEIC จะถูกแบ่งออกเป็น 2 Part คะแนนเต็ม 990 คะแนน ประกอบด้วย 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ดังนี้

  • TOEIC Listening and Reading Test เป็นการทดสอบทักษะการฟังและการอ่าน ใช้เวลาสอบประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที มีคะแนนเต็ม  495 คะแนน
  • TOEIC Speaking and Writing Test เป็นการทดสอบทักษะการพูดและการเขียน ใช้เวลาสอบประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที มีคะแนนเต็ม 495 คะแนน
  • ทักษะการฟัง (Listening) ทดสอบความสามารถในการฟังและเข้าใจบทสนทนา บรรยาย และรายการวิทยุหรือโทรทัศน์
  • ทักษะการพูด (Speaking) ทดสอบความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยข้อแรกเป็นการพูดแบบบรรยาย และข้อที่สองเป็นการพูดโต้ตอบ
  • ทักษะการอ่าน (Reading) ทดสอบความสามารถในการอ่านและเข้าใจเนื้อหาจากบทความ จดหมาย ประกาศ และเอกสารอื่น ๆ
  • ทักษะการเขียน (Writing) ทดสอบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษในหัวข้อที่กำหนด โดยจะต้องเขียนเรียงความ อีเมล หรือจดหมาย

        สำหรับเกณฑ์คะแนนของ TOEIC ในการใช้สมัครงาน ขึ้นอยู่กับองค์กรที่สมัครว่าต้องการคะแนน TOEIC เท่าไหร่ ซึ่งจะไม่ต่ำกว่า 450 คะแนนขึ้นไป สูงสุด 700-800+ เลยทีเดียว

รู้จักทั้ง 3 การสอบภาษาอังกฤษกันไปแล้ว น้องๆ ก็ลองไปสอบเตรียมไว้ตามเป้าหมายที่ต้องการเลยนะ ไม่ว่าจะสมัครเรียน หรือ ทดสอบความสามารถทางด้านภาษาของตัวเอง บอกเลยว่ามีหลักฐานการสอบภาษาอังกฤษไว้ ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ

อัพเดทวงการการศึกษา หรือ มองหามหาวิทยาลัยที่ใช่ มาดูที่ Edugoเลย!

ข่าวสารอื่นๆ

กยศ.คืออะไร ใครกู้ได้บ้าง Free Plan

กยศ.คืออะไร ใครกู้ได้บ้าง

10 พ.ค. 2567
All ทั่วไป

“การศึกษา คือ การลงทุน” อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ชอบ ก็ต้องใช้เงินลงทุนทั้งนั้น แต่น้อง ๆ ที่ไม่ได้มีทุนทรัพย์มาก การ กู้ กยศ. จึงเป็นทางเลือกของเด็กนักเรียน นักศึกษา Edugo จะพามาทำความรู้จักกับ กยศ. กัน ว่าคืออะไร

เปิดเทอม เทอมสุดท้าย ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด Free Plan

เปิดเทอม เทอมสุดท้าย ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

4 พ.ย. 2567
All ทั่วไป

End game is here...เทอมสุดท้ายในรั้วโรงเรียน

5 ภาพยนตร์เพิ่มสกิลภาษาอังกฤษ ดูครบ Speaking มันส์แน่ Free Plan

5 ภาพยนตร์เพิ่มสกิลภาษาอังกฤษ ดูครบ Speaking มันส์แน่

30 มี.ค. 2567
All ทั่วไป

เราอาจจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ว่า อยากเก่งภาษาอังกฤษ ก็ไปดูหนังภาษาอังกฤษเยอะๆ แต่หลายคนที่เริ่มต้นใหม่ อาจจะยังทำไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ภาพยนตร์เรื่องไหนดี เรามีมาแนะนำกับ 5 ภาพยนตร์เพิ่มสกิลภาษาอังกฤษ มาดูกัน

นิสัยตาม Holland Codes ทั้ง 6 ประเภท Free Plan

นิสัยตาม Holland Codes ทั้ง 6 ประเภท

7 ก.พ. 2567
ทั่วไป

มารู้จักกับ Holland Codes ทั้ง 6 ประเภท ที่จะทำให้น้องๆ ค้นหาตัวตน โดยใช้ลักษณะนิสัยบอกอาชีพที่เหมาะกับตัวน้องๆ มากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจเลือกคณะให้ตรงใจ รู้ว่าตัวเองชอบอะไรได้ง่ายๆ ผ่านบททดสอบนี้