เชื่อว่า น้องๆ หลายคนแทบจะเป็นหมีแพนด้ากันอยู่แล้วใช่มั๊ย พอใกล้สอบที ความเครียดจากการเรียน ความเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือ ทำให้ใบหน้าของใครหลายคน เจอกับปัญหาหน้าโทรม หมองคล้ำ ความจำไม่ดี สมาธิสั้น ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก ยิ่งถ้าเครียดพร้อมนอนดึกสะสม อาจมีหามส่งโรงพยาบาลกันได้เลยนะ Edugo เลยอยากมาแนะนำทริคดูแลตัวเองง่ายๆ กู้หน้าโทรม เสริมสร้างสมาธิ มาดูกันทำยังไงได้บ้าง
1. นอนให้เต็มอิ่ม
เข้าใจเลยว่ามันนอนยากมาก หากน้องๆ ชินกับการนอนดึก แต่ถ้าดึกทุกวัน จนรู้สึกว่าตัวเองโทรมมาก แถมยังเบลอเวลาไปเรียน ให้ตั้งใจใหม่ ปรับตัวเองนอนให้เพียงพอ เต็มอิ่มโดยทั่วไปควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะหากนอนน้อย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนโกรทฮอร์โมนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวพรรณดูหมองคล้ำ มีริ้วรอย และเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาแต่ถ้านอนตามเวลา ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนโกรทฮอร์โมน ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิวด้วย ผิวเราจึงดูใส ไม่โทรมนั่นเอง
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อีกหนึ่งวิธีกู้หน้าโทรม เนื่องจากน้องๆ ชอบนอนดึก เรียนหนักแล้วเครียดจนไม่มีเวลาดื่มน้ำ ผิวก็จะโทรม ไม่ชุ่มฉ่ำ แห้งกร้านได้ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน แต่ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ ไม่แห้งกร้าน กระชับ และยืดหยุ่นดี แถมยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวดูสะอาด กระจ่างใส
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
บางทีความเหนื่อยอาจทำให้น้องๆ ขี้เกียจออกกำลังกาย แต่บอกเลยว่า หน้าอาจจะโทรมได้ง่าย แต่ถ้าลองผลักดันตัวเองให้ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละ 30-60 นาทีจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในร่างกาย ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ทั่วถึง ส่งผลให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่งและในขณะที่ออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดได้อีกด้วย
4. รับประทานวิตามินบำรุงผิว
แน่นอนว่า ผิวจะกลับมากระจ่างใส ไม่โทรมนั้น ก็ต้องบำรุงด้วยวิตามินต่างๆ ซึ่งจะหาจากผลไม้จริง หรืออาหารเสริมที่ปลอดภัยก็ได้ แนะนำสำหรับน้องๆ ที่นอนดึกเป็นประจำ ควรทานวิตามินซี ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันหวัด ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำวิตามินบี3 ช่วยในการลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำวิตามินบี 5 ช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านและ วิตามินบี 6 ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่นทานวิตามินแต่พอดี และมี อย.หรือมาตรฐานรับรอง ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด
5. บำรุงสายตา
นอกจากผิวแล้ว สายตาที่จดจ้องกับการอ่านหนังสือนาน ก็อาจทำให้ปวดตา อ่อนล้าได้ จึงควรรับประทานวิตามินเอ เสริมเข้าไป ช่วยให้สายตาดี มองเห็นในที่มืดชัดเจน ต้านอนุมูลอิสระปกป้องดวงตาจากแสงแดดและแสงจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังช่วยรักษาความแข็งแรงของกระจกตาด้วย หากต้องการวิตามินเอธรรมชาติ สามารถหาได้จาก ผักและผลไม้ที่มีสีส้ม สีเหลือง สีแดง เช่น แครอท ฟักทอง มันหวาน มะละกอ มะม่วงสุก ตำลึง ผักโขม คะน้า บร็อคโคลี ไข่แดง นมและผลิตภัณฑ์จากนม น้ำมันตับปลา เป็นต้น
6. อาหารเสริมความจำ
บางทีเรียนเยอะมาก จนสมองล้า ทำให้คิดอะไรไม่ออก ยิ่งนอนดึก ความจำยิ่งถดถอยลง จึงควรทานอาหารเสริมความจำ ที่มีส่วนประกอบของ โอเมก้า3 กรดไขมันจำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง พัฒนาการเรียนรู้และจดจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ วิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง วิตามินอี ปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย ฟลาโวนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีสันสดใส เช่น บลูเบอร์รี่ องุ่น แครนเบอร์รี่ และกิงโก บิโลบา เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น้องๆ ควรผ่อนคลาย เครียดให้น้อยลง ทาครีมบำรุง หาเวลาว่างไปเที่ยวพักผ่อนตามคาเฟ่ หรือ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างก็ได้ ช่วยกระตุ้นความเหนื่อยสะสม และถ้าทำได้ทั้ง 6 ข้อที่แนะนำ รับรองหน้าน้องจะไม่โทรม ผิวปังขึ้น แถมความจำดี เตรียมพร้อมสู่สนามสอบได้อย่างมั่นใจ
อัพเดทวงการการศึกษา หรือ มองหามหาวิทยาลัยที่ใช่ มาดูที่ Edugoเลย!